สวัสดีน่ะ "วันนี้นะค่ะนิกกี้สุดสวยก็จะมานำเสนอเส้นทางท่องเที่ยวอีกตามเคยน๊าาค่ะ วันนี้ดิฉันจะขอเสนอเส้นทางสายบุญก่อนวัน "มาฆบูชา" เพื่อให้ทุกท่านมีตัวเลือกในการเดินทาง น๊าาค่ะ
ก่อนอื่นเลยเรามารู้จักกับ จังหวัด พระนครศรีอยุธยาหรือที่เราเรียกกันสั้นๆว่า "อยุธยา" ค่ะ ไปกันเล๊ยยย
พระนครศรีอยุธยา เป็นจังหวัดหนึ่่งในภาคกลางซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจที่สำคัญ โดยมีผลิตภัณฑ์มวลรวมของจังหวัดมีมูลค่าสูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศและมีประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ยาวนาน เคยมีชื่อเสียงในฐานะเป็นแหล่งปลูกข้าวที่สำคัญ จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นจังหวัดที่ไม่มีอำเภอเมือง มีอำเภอพระนครศรีอยุธยาเป็นศูนย์กลางการบริหารจัดการด้านต่าง ๆ ชาวบ้านโดยทั่วไปนิยมเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "กรุงเก่า" หรือ "เมืองกรุงเก่า"
**
*เอาละค่ะก็พอจะได้รู้ประวัติของจังหวัดอยุธยากันพอคร่าวๆกันแล้วก็ถึงเวลาที่เราจะเดินทาง"สายบุญ" สะสมบุญตามหารักที่โรงทานกันสั่กทีน๊าาคะ
มากันที่วัดแรกันเล๊ยยย
1.วัดใหญ่ชัยมงคล
 |
วัดใหญ่ชัยมงคลถือว่าเป็นวัดมีความสำคัญทางประวัติศาตร์มากที่สุดและเป็นวัด
ที่นักท่องเที่ยวนิยมมามากที่สุดวัดหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงเป็นธรรมดาที่จะ
พบเห็นนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมายังวัดแห่งนี้ จุดสนใจของวัดใหญ่ชัยมงคลนี้ คือ
เรื่องราวทางประวัติศาตร์ในสมัยกรุงศรีอยุธยา รวมไปถึงสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น ชมเจดีย์
ที่สูงที่สุดในอยุธยา ด้านหลังวัดมีตำหนักสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ให้ผู้นับถือศรัทธาเข้ามา
กราบไหว้ นอกจากนี้ บริเวณ รอบๆ ยังมีมีสวนหย่อมที่สวยงามให้พักผ่อนอีกด้วย
นักท่องเที่ยวที่ต้องการมาเที่ยวอยุธยาจึงไม่ควรพลาดอย่างยิ่งน๊าาค่ะ |
2.วัดพนัญเชิงวรมหาวิหาร
 |
วัดพนัญเชิงวรวิหาร
ไหว้หลวงพ่อโต หรือซำปอกง
พระพุทธรูปปูนปั้นปามารวิชัยที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยหน้าตักกว้าง
20.17 เมตร สูง 19 เมตร ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ
ให้บูรณะใหม่ทั้งองค์ พร้อมถวายพระนามว่า "พระพุทธไตรรัตนายก"
เมื่อไปถึงอย่าลืมห่มผ้าหลวงพ่อซึ่งเป็นไฮไลท์ของวัดพนัญเชิงวรวิหารที่ใครมาต้องห่มผ้าหลวงพ่อสักครั้งน๊าค่ะ
|
3.วัดมงคลบพิตร
 |
พระมงคลบพิตร
เป็นพระพุทธรูปบุสัมฤทธิ์องค์ใหญ่องค์หนึ่งในประเทศไทย
ครั้นถึงแผ่นดินของสมเด็จพระเจ้าเสือ
ยอดมณฑปเกิดไฟไหม้เพราะอสนีบาตทำให้ส่วนบนขององค์พระมงคลบพิตรเสียหาย
จึงโปรดให้ก่อสร้างใหม่ แปลงเป็นพระวิหารแทน เมื่อเสียกรุงครั้งที่ 2
วิหารพระมงคลบพิตรได้ถูกไฟไหม้
พระวิหารและองค์พระพุทธรูปได้รับการปฏิสังขรณ์ใหม่
บริเวณข้างวิหารพระมงคลบพิตรทางด้านทิศตะวันออก เดิมเป็นสนามหลวง
ใช้เป็นที่สำหรับสร้างพระเมรุพระบรมศพของพระมหากษัตริย์และเจ้านายเช่นเดียวกับท้องสนามหลวงของกรุงเทพฯ |
4.วัดธรรมิกราช
 |
พระมงคลบพิตร
เป็นพระพุทธรูปบุสัมฤทธิ์องค์ใหญ่องค์หนึ่งในประเทศไทย
ครั้นถึงแผ่นดินของสมเด็จพระเจ้าเสือ
ยอดมณฑปเกิดไฟไหม้เพราะอสนีบาตทำให้ส่วนบนขององค์พระมงคลบพิตรเสียหาย
จึงโปรดให้ก่อสร้างใหม่ แปลงเป็นพระวิหารแทน เมื่อเสียกรุงครั้งที่ 2
วิหารพระมงคลบพิตรได้ถูกไฟไหม้
พระวิหารและองค์พระพุทธรูปได้รับการปฏิสังขรณ์ใหม่
บริเวณข้างวิหารพระมงคลบพิตรทางด้านทิศตะวันออก เดิมเป็นสนามหลวง
ใช้เป็นที่สำหรับสร้างพระเมรุพระบรมศพของพระมหากษัตริย์และเจ้านายเช่นเดียวกับท้องสนามหลวงของกรุงเทพฯ |
5.วัดหน้าพระเมรุ
 |
วัดหน้าพระเมรุ
เป็นวัดมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์กรุงศรีอยุธยา
เนื่อจากเคยเป็นวัดที่พม่าใช้ตั้งฐานบัญชาการจึงเป็นวัดเดียวในกรุงศรีอยุธยาที่ไม่ได้ถูกพม่าทำลายและยังคงปรากฏสถาปัตยกรรมแบบอยุธยาและอยู่ในสภาพสมบูรณ์มากที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เป็นวัดยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่มักเดินทางไปนมัสการหลวงพ่อพระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งในกรุงศรีอยุธยา |
6.วัดมหาธาตุ
 |
วัดหน้าพระเมรุ
เป็นวัดมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์กรุงศรีอยุธยา
เนื่อจากเคยเป็นวัดที่พม่าใช้ตั้งฐานบัญชาการจึงเป็นวัดเดียวในกรุงศรีอยุธยาที่ไม่ได้ถูกพม่าทำลายและยังคงปรากฏสถาปัตยกรรมแบบอยุธยาและอยู่ในสภาพสมบูรณ์มากที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เป็นวัดยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่มักเดินทางไปนมัสการหลวงพ่อพระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งในกรุงศรีอยุธยา |
7.วัดกษัตราธิราชวรวิหาร
 |
วัดกษัตราธิราชวรวิหาร หรือชื่อเดิมคือ วัดกษัตราราม หรือ วัดกุสิตราราม เป็นพระอารามหลวงเก่าสมัยกรุงศรีอยุธยามีพระปรางค์ใหญ่เป็นหลักประธานของวัด
สันนิษฐานว่า เป็นวัดที่พระมหากษัตริย์
หรือพระบรมวงศานุวงศ์สร้างหรือปฏิสังขรณ์ขึ้น ถัดมาในปี พ.ศ. 2421
ได้รับการปฏิสังขรณ์อีกครั้ง
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
โดยได้พระราชทานหินอ่อนเพื่อปูพื้นพระอุโบสถ และได้พระราชทานนามวัดใหม่ว่า
วัดกษัตราธิราช |
8.วัดพุทไธศวรรย์
 |
ภายในวัดมีสิ่งที่น่าสนใจ คือ
พระปรางค์ประธานองค์ใหญ่เป็นศิลปะแบบอยุธยาตอนต้นผสมศิลปะขอม
มีระเบียงล้อมรอบ ภายในประดิษฐานพระปูนปั้นนับร้อยองค์
ด้านข้างพระปรางค์มีมณฑปอย่างละหลัง
เป็นที่ประดิษฐานพระประธานปูนปั้นปางมารวิชัย
เป็นวัดที่นักท่องเที่ยวนิยมไปกราบขอพรจากองค์จตุคามรามเทพ
จึงทำให้บริเวณวัดพุทไธศวรรย์ช่วงวันหยุดก็จะเนืองแน่นไปด้านผู้คนจำนวนมาก |
9.วัดไชยวัฒนาราม
 |
ภายในวัดมีสิ่งที่น่าสนใจ คือ
พระปรางค์ประธานองค์ใหญ่เป็นศิลปะแบบอยุธยาตอนต้นผสมศิลปะขอม
มีระเบียงล้อมรอบ ภายในประดิษฐานพระปูนปั้นนับร้อยองค์
ด้านข้างพระปรางค์มีมณฑปอย่างละหลัง
เป็นที่ประดิษฐานพระประธานปูนปั้นปางมารวิชัย
เป็นวัดที่นักท่องเที่ยวนิยมไปกราบขอพรจากองค์จตุคามรามเทพ
จึงทำให้บริเวณวัดพุทไธศวรรย์ช่วงวันหยุดก็จะเนืองแน่นไปด้านผู้คนจำนวนมาก | |
เป็นยังไงกันบ้างค่ะกับเส้นทางสายบุญในวันนี้ที่นิกกิมินาจคนงามพาเพื่อนๆเดินทางไปเยี่ยมชมมีความสวยงามและล้ำค่ามากใช่ไหมละค๊าา นอกจากจะมีความสวยงามเก่าเเก่ล้ำค่าเเล้วยังมีประวัติความเป็นมาที่น่าค้นหาเป็นอย่างมาก นิกกิมั่นใจว่าเส้นทางสายบุญในครั้งนี้จะทำให้เพื่อนๆมีความสุขในช่วง ก่อนวัน
"มาฆบูชา"นี้ต่ะค๊าสำหรับวันนี้สวัสดีค๊าาา
แหล่งที่มา
ต้องขอขอบพระคุณ
http://www.edtguide.com/article/432865/%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B9%89%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0-9-%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94-%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%98%E0%B8%A2%E0%B8%B2
สำหรับการจัดนำเสนอเส้นทางไหว้พระ9วัด ในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เพื่อธุรกิจท่องเที่ยว ของนักศึกษาวิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น สาขาการท่องเที่ยว ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจหรือผลประโยชย์แต่อย่างใด จัดทำขึ้นเพื่อนำเสนอเส้นทางการท่องเที่ยวให้คนไทยหันมาสนใจในการเที่ยวไทยมากขึ้น ขอขอบพระคุณที่เข้าชมน๊าค๊าาา